ในยุคสมัยที่การเรียนแบบท่องจำภาษาเพื่อนำไปสอบไม่ได้ทำให้เด็กนักเรียนเข้าใจในเนื้อหาการเรียนการสอนอย่างแท้จริง ทำให้มี Holistic Approach หรือที่รู้จักกันในรูปแบบ Holistic Learning ซึ่งเป็นการเรียนการสอนแบบองค์รวมกำเนิดขึ้นมา เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้แบบครบทุกมิติ โดยเชื่อมโยงเนื้อหาบทเรียน เข้ากับความคิด ทัศนคติ อารมณ์ จิตใจ รวมถึงสังคมเข้าด้วยกัน
การเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach ยังไม่ถูกผลักดันในระบบการศึกษาไทยอย่างแพร่หลาย แต่นิยมใช้ในโรงเรียนนานาชาติ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติเซนต์ แอนดรูว์ส ดุสิตด้วยเช่นกัน สงสัยหรือไม่ว่าทำไมการเรียนการสอนแบบ Holistic Approach ถึงเป็นที่นิยมในโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนประถมนานาชาติ และโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ขอชวนมาแอบส่องความน่าสนใจของแนวคิดนี้กัน !
ชวนทำความเข้าใจ การเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach คืออะไร ?
การเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approac เป็นหลักการเรียนอย่างลึกซึ้งที่มุ่งเน้นไปยังแนวคิด “ชีวิตคือการเรียนรู้” รวมถึงการเรียนรู้ทางด้านภาษา ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นการรื้อชุดความคิดลักษณะการเรียนภาษาเพื่อท่องจำไปสอบเลยก็ว่าได้ เพราะการเรียนภาษาแบบท่องจำไม่ได้ช่วยให้ผู้เรียนได้เกิดความเข้าใจโลกภายนอก และไม่เข้าใจหลักของการสื่อสาร ทำให้เกิดปัญหาที่พบได้บ่อยในระบบการศึกษาปัจจุบันคือ เด็กนักเรียนไม่สามารถเชื่อมโยงความรู้ในบทเรียนเข้ากับการสื่อสารในชีวิตจริงได้อย่างแท้จริง
การที่เด็กนักเรียนไม่สามารถสื่อสารภาษาได้อย่างถูกต้อง หรือไม่สามารถทำความเข้าใจความรู้ โลก และตัวเองได้อย่างชัดเจน อาจทำให้พวกเขามีจังหวะสะดุดในการเติบโต ท่ามกลางสังคมของเรากำลังหมุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการที่จะ “สร้างเด็กหนึ่งคน” ให้มีคุณภาพและวิ่งตามทันโลกได้ด้วยตัวเองพวกเขาเองจึงต้องอาศัยการเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approac ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในโรงเรียนนานาชาติประถม และโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ณ ปัจจุบันนี้
รูปแบบการเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approac จะมีมุมมองต่อเด็กนักเรียนทุกคนอย่างลึกซึ้ง สอดคล้องกับเป้าหมายของโรงเรียนนานาชาติเซนต์ แอนดรูว์ส ดุสิต ที่เน้นใส่ใจนักเรียนของเราแบบรายบุคคล เพื่อค้นหาเป้าหมาย ความคิด ความชอบ ความถนัด แรงบันดาลใจ ตลอดจนความสามารถอื่น ๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวเด็กนักเรียนของเรา จากนั้นจึงดึงสิ่งเหล่านั้นออกมาให้พวกเขารู้จักตนเอง และมองเห็นทางเดินแห่งอนาคตของตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
แก่นแท้และที่มาของการศึกษาแบบองค์รวม Holistic Approach
หากเจาะให้ลึกถึงแก่นแท้ของการศึกษาแบบองค์รวม Holistic Approach คำว่า Holistic มีรากฐานมาจาก Wholeness ที่แปลว่า “องค์รวม” ดังนั้นจึงหมายถึงการเรียนรู้แบบใช้วิจารณญาณครบทุกมิติ ไม่ใช่เพียงแค่เรียนรู้ตามเนื้อหาในหนังสือเท่านั้น แต่เด็กนักเรียนจะต้องนำตัวเองเข้ามาเชื่อมโยงและมีปฏิสัมพันธ์กับโลกที่พวกเขาอยู่ด้วย เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ฝึกการใช้วิชาความรู้ให้เกิดประโยชน์กับชีวิต
หากกล่าวให้เห็นภาพง่าย ๆ ในส่วนนี้ แนวคิดการศึกษา Holistic Approach คือการฝึกให้เด็กนักเรียนฝึกการสื่อสาร และรู้จักการพิจารณาแบบองค์รวม เพราะในมิติของสังคมจริง ๆ เราจะแยกทีละส่วน (Part) ไม่ได้ ด้วยสาเหตุที่ว่าคุณค่าขององค์รวมมีมากกว่าการนำส่วนย่อย ๆ มาบวกกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่โรงเรียนนานาชาติเซนต์ แอนดรูว์ส ดุสิต ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมนานาชาติ โรงเรียนอนุบาลนานาชาติ นำการศึกษาแบบองค์รวม Holistic Approach มาใช้ในการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ที่ช่วยให้นักเรียนของเราค้นพบตนเอง ซึ่งเกิดจากแรงปลุกเร้าภายในตัวพวกเขาเอง
โดย Forbes (1996) ได้กล่าวถึงที่มาของการศึกษาแบบองค์รวม Holistic Approach ในปัจจุบันว่ามีโรงเรียนกว่า 7,500 แห่งทั่วโลกหันมาใช้ระบบการเรียนการสอนแบบองค์รวม และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต แนวคิดการศึกษานี้เกิดขึ้นจากนักการศึกษาและนักภาษาศาสตร์ที่สำคัญของโลกกว่า 15 ท่าน โดยเป็นกระบวนการที่มีการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ช่วงปี 1960 เลยทีเดียว
ทำไมการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach ถึงเป็นที่นิยมในโรงเรียนนานาชาติ ?
เหตุผลที่การเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach เป็นที่นิยมในโรงเรียนนานาชาติ เป็นเพราะจุดมุ่งหมายของการศึกษาของแนวคิด Holistic Approach และโรงเรียนนานาชาติมีความสอดคล้องใกล้เคียงกัน เนื่องจากโรงเรียนนานาชาติเองก็มีความต้องการปลูกฝังให้ผู้เรียนนำตนเองไปเป็นส่วนหนึ่งของโลก มีทักษะในการสื่อสาร การคิด การวิเคราะห์ การแก้ปัญหาได้จริง รวมถึงเน้นเสริมสร้างพัฒนาการทางด้าน IQ และ EQ ไปแบบควบคู่กัน ดังนั้นการเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach จึงถูกนำมาใช้ในการของโรงเรียนนานาชาติอย่างแพร่หลาย และเป็นที่รู้จักกันดีในระดับสากล
การสอนแบบองค์รวม Holistic Approach ไม่ได้ถูกนำมาใช้วาวรากฐานการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนนานาชาติประถมอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้กับเด็กนักเรียนตัวจิ๋วอย่างโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ และโรงเรียนอนุบาลดุสิตด้วยเช่นกัน เพื่อหลอมรวมให้พวกเขารู้จักการศึกษาที่นำพาตัวเองเชื่อมโยงเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับโลกตั้งแต่วัยที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิต
หลักการเรียนรู้แบบองค์รวม Holistic Approach
สำหรับการเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach จะต้องมีการประยุกต์สิ่งรอบตัวผู้เรียนทั้ง 5 ด้านหลัก ๆ เพื่อค่อย ๆ ฝึกให้พวกเขาได้มีพัฒนาการทางภาษา และด้านความรู้อย่างเป็นไปตามจุดมุ่งหมาย
- บรรยากาศห้องเรียนแบบองค์รวม
ห้องเรียนแบบองค์รวมจะเน้นจำลองสถานที่ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยจะมีมุมที่ดึงดูดให้พวกเขาอยากเข้ามาเรียนรู้ เช่น มุมบล็อก มุมห้องสมุด มุมบทบาทสมมุติ เป็นต้น ซึ่งแต่ละมุมก็จะมีสื่อการสอนอื่น ๆ ให้นักเรียนรู้สึกสนุก และรู้จักการเชื่อมโยงด้วยประสบการณ์ของพวกเราเอง
- รูปแบบการสอนแบบองค์รวม
การเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach จะเน้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมขณะเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทำกิจกรรมด้วยตนเอง การตั้งคำถาม หรือการตอบคำถาม นอกจากนี้จะต้องส่งเสริมให้พวกเขาใช้เวลาเรียนรู้อย่างเต็มที่ โดยไม่จำกัดการเรียนรู้ หรือมีลำดับขั้นตอนมากจนเกินไป
- ครูผู้สอนแบบองค์รวม
ในส่วนนี้หมายถึงครูผู้สอนจะต้องมีความอดทน และเข้าใจธรรมชาติในตัวเด็ก เพราะการเรียนการสอนแบบองค์รวมต้องใช้เวลาปลูกฝังกันนานกว่าการท่องจำบทเรียน แต่ถึงแม้ว่าการเรียนลักษณะนี้จะดูเหมือนช้า แต่กลับสร้างองค์ความรู้ที่มั่นคงกว่าในอนาคต
- การฝึกทักษะการฟัง / พูด / อ่าน / เขียน แบบองค์รวม
การเรียนการสอนแบบองค์รวมจะต้องพัฒนาทักษะพื้นฐานให้ครบทั้ง 4 ด้าน ยกตัวอย่างกิจกรรมในห้องเรียนได้ดังนี้
- การเล่านิทาน การอ่านบทคล้องจอง การร้องเพลง (ส่งเสริมการฟัง)
- การตอบคำถาม การให้เด็กออกไปเล่านิทาน หรือเล่าเรื่องราวต่าง ๆ (ส่งเสริมการพูดและอ่าน)
- การวาดรูปตามคำบอก การสะกดคำง่าย ๆ (ส่งเสริมการเขียน)
- การสนับสนุนของผู้ปกครองแบบองค์รวม
การเรียนการสอนแบบองค์รวมไม่ได้จำกัดแค่เพียงในห้องเรียนเท่านั้น แต่เมื่อนักเรียนกลับบ้าน ผู้ปกครองก็สามารถช่วยส่งเสริมพวกเขาด้วย Holistic Approach ได้ด้วยการพูดคุยสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ ที่พวกเขาเจอในชีวิตประจำวัน เล่านิทานให้ฟัง หรือชวนให้พวกเขาอ่านคำง่าย ๆ รอบตัว ก็จะช่วยให้พวกเขาค่อย ๆ ฝึกการเชื่อมโยงได้
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจมองเห็นปัญหาได้ว่าการเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach เกิดจากนักการศึกษาและนักภาษาศาสตร์ที่มองเห็นปัญหาการเรียนรู้ภาษาของเด็ก ซึ่งมาจากการระบบการศึกษาแบบเดิมที่เน้นหนักไปทางวิชาการจนเกินไป ทำให้การเรียนการสอนไม่น่าสนใจ และไม่เหมาะกับธรรมชาติตามช่วงวัยของพวกเขานั่นเอง
สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่ให้ความสำคัญการศึกษาแบบองค์รวม และต้องการวางรากฐานให้บุตรหลานได้ฝึกทักษะเชื่อมโยงประสบการณ์ในชีวิต โรงเรียนนานาชาติเซนต์ แอนดรูว์ส ดุสิตของเราเป็นอีกหนึ่งสถาบันคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับระดับสากลในด้านการเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach ผู้ปกครองจึงสามารถมั่นใจได้ว่าบุตรหลานของคุณจะได้รับการศึกษาที่เน้นให้พวกเขาค้นพบตนเอง เข้าใจโลกและตนเองไปพร้อมกัน รู้จักการวิเคราะห์แก้ไขปัญหา และกล้าสื่อสารภาษาอื่น ๆ ได้อย่างมั่นใจ ผ่านการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์
สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่สนใจให้บุตรหลานได้ศึกษาการเรียนการสอนแบบองค์รวม Holistic Approach ของโรงเรียนนานาชาติ St. Andrews ดุสิต สามารถนัดเข้าเยี่ยมชมโรงเรียน หรือดู ข้อมูลเพิ่มเติม